อีเมล์ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
  • ปรับขนาด
    ตัวอักษร
สถานที่ท่องเที่ยว
วัดอัมพวัน
ยังไม่มีผู้ให้คะแนน

   วัดอัมพวัน ถือเป็นวัดอันดับต้น ๆ ที่มีประชาชนเดินทางไปปฏิบัติธรรม เนื่องจากวัดแห่งนี้ยึดหลักปฏิบัติแบบสติปัฏฐาน 4 แม้วันนี้หลวงพ่อจรัญจะมรณภาพไปแล้ว แต่ยังมีพุทธศาสนิกชน เดินทางไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

   ความรู้สึกของประชาชนที่เลื่อมใสในหลักคำสอนของพระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เป็นเครื่องบ่งชี้ให้เห็นว่าสามารถนำหลักในการปฏิบัติธรรมไปใช้ได้จริงกับการดำเนินชีวิตประจำวัน จึงทำให้ทุกวันนี้ วัดอัมพวัน เป็นวัดอันดับต้นๆของวัดปฏิบัติธรรม แบบวิปัสสนากรรมฐาน คือ การกำหนดจิตภาวนาแนวสติปัฏฐาน 4 ซึ่งประกอบด้วย กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน และ ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน และแม้วันนี้ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม จะมรณภาพแล้วแต่ยังคงมีประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธาในหลักปฏิบัติเดินทางเข้ามาลงทะเบียน เพื่อขอรับเข้าปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยในแต่ละช่วงจะมีผู้ปฏิบัติไม่ต่ำกว่า 1,000 คน  โดยมีพระอาจารย์ ผู้เป็นลูกศิษย์เป็นผู้ถ่ายทอด และ ชี้แนะแนวทางในการปฏิบัติให้กับผู้ปฏิบัติธรรม เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของหลวงพ่อในการให้ประชาชนมีสติ ตามหลักคำสอนของหลวงพ่อที่ว่า"เราพูดอยู่เสมอถึงคำว่า สติปัญญา เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง แต่สตินั้นแท้จริงแล้ว เรานำออกมาใช้น้อยนัก ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าแก่ชีวิต" ดังนั้น แม้จะสิ้นหลวงพ่อแล้ว แต่ที่วัดแห่งนี้ยังคงไม่สิ้นแนวทางปฏิบัติของท่าน และ แนวทางนี้จะยังคงอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาต่อไป

พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) เป็นพระภิกษุชาวไทย ในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อดีตเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรีจังหวัดสิงห์บุรี และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๓ ท่านมีชื่อเสียงในระดับประเทศจากการเป็นพระนักพัฒนา พระนักเทศน์ และพระวิปัสสนาจารย์ แนวทางการสืบทอดพระพุทธศาสนาของท่านเน้นหนักที่การสั่งสอนเรื่องกฎแห่งกรรม โดยยกเหตุการณ์ที่ท่านประสบและนับเป็นกฎแห่งกรรมขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์อยู่เสมอ และเน้นการพัฒนาจิตใจคนด้วยการทำวิปัสสนากรรมฐานด้วยหลักสติปัฏฐาน ๔ แบบพองหนอ-ยุบหนอ นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ที่ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนหมั่นสวดมนต์ด้วยพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงมหากา) เพื่อเป็นเครื่องเจริญสติอย่างแพร่หลายอีกด้วย หลวงพ่อจรัญถึงแก่มรณภาพอย่างสงบ ในวันที่ 25 มกราคม 2559

กำหนดเวลาเข้ากราบสรีระสังขารหลวงพ่อ ตั้งแต่ ๐๘.๓๐ - ๒๑.๐๐ น. ของทุกๆวัน

การปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน

   การปฏิบัติธรรมสำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการมาที่วัดอัมพวันนั้น จะมีแบบ 3 วัน และ 7 วัน ดังนี้

         - การเข้าปฏิบัติธรรมแบบ 3 วัน สามารถไปลงทะเบียนได้ที่วัด ทุกวันศุกร์ ก่อน 4 โมงเย็น และจะลาศีล (กลับบ้าน) ก่อนบ่ายของวันอาทิตย์

         - การเข้าปฏิบัติธรรมแบบ 7 วัน สามารถไปลงทะเบียนได้ที่วัด ทุกวันโกนก่อน 4 โมงเย็นเช่นกันครับ และลาศีลในวันโกนถัดไป (วันโกนคือวันก่อนวันพระ 1 วัน)

         แต่สำหรับเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จะต้องนำหนังสืออนุญาตจากผู้ปกครองนำติดไปด้วย ซึ่งสามารถใช้วิธีเขียน ระบุชื่อผู้ปกครองที่อนุญาตให้มาปฏิบัติธรรมกี่วัน พร้อมเบอร์โทรศัพท์และสำเนาบัตรประชาชน และเมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้ว ผู้ปฏิบัติธรรมสามารถนำสัมภาระเข้าไปเก็บยังที่พัก โดยจะมีที่ให้อาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดปฏิบัติธรรมและลงมารอที่อาคารภาวนา 1 ชั้นบน ในเวลาประมาณ 17.30 น. ซึ่งจะมีท่านพระครูสอนกรรมฐานเบื้องต้น นอกจากนี้ทางวัดยังเปิดปฏิบัติธรรมให้แก่ชาวต่างชาติอีกด้วย สามารถอ่านรายละเอียดข้อบังคับได้ที่นี่ www.jarun.org

การเดินทางมาวัด 

   โดยรถยนต์ส่วนตัว  ออกจากกรุงเทพฯโดยใช้ถนนพหลโยธิน แยกเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข ๓๒ (สายเอเชีย) โดยขับตรงมาตลอดทาง ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดอ่างทอง ทางเข้าวัดจะตั้งอยู่บริเวณ กิโลเมตรที่ ๗๘ – ๗๙ ให้สังเกตุทางซ้ายมือ จะมีป้ายทางเข้าวัดอัมพวัน ระยะทางประมาณ ๑๓๐ กิโลเมตร

   โดยรถโดยสารประจำทาง  ให้นั่งรถตู้หรือรถโดยสารประจำทางโดยขึ้นรถที่สถานีหมอชิต ๒

   เดินทางโดยวินรถตู้ กรุงเทพ – สิงห์บุรี ค่าโดยสาร ๑๐๐ บาท

   เดินทางโดยรถโดยสาร กรุงเทพ – สิงห์บุรี

แสดงความคิดเห็น
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ